อีกหนึ่งช่วงเวลาที่เป็นกังวลสำหรับคุณผู้หญิงนั่นก็คือ ช่วงเวลาที่ไม่มีประจำเดือนอีกต่อไป แน่นอนเลยว่าเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “วัยทอง” นั่นเอง แต่สำหรับในเรื่องนี้จะขอเรียกว่า วัยหมดประจำเดือน เพราะในช่วงเวลาดังกล่าวคุณผู้หญิงจะหยุดผลิตผลิตไข่ ไม่มีประจำเดือน แต่สิ่งที่ทำให้ใครหลายคนกังวลมากนั่นก็คือ ผลข้างเคียงต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางด้านการเปลี่ยนแปลงของสุขภาพ อารมณ์ ซึ่งจะส่งผลให้สุขภาพนั้นแย่ลงไปมากกว่าเดิม แต่ทว่าเรื่องเหล่านี้คุณผู้หญิง รวมทั้งคนรอบข้างเองสามารถที่จะรับมือได้ พร้อมทั้งเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กันในบทความนี้ เพราะว่าพวกเราได้รวบรวมเรื่องของ ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ไม่ว่าจะเป็น วัยหมดประจําเดือนอาการ ของช่วงนี้ การดูแลรักษาสุขภาพ ที่สำคัญยังมีคำแนะนำเกี่ยวกับการรับประทานอาหาร ที่มีสารอาหารสำคัญที่ส่งผลดีต่อสุขภาพในช่วงเวลานั้นด้วย ซึ่งต้องบอกเลยว่าใครที่อายุเข้าใกล้วัยหมดประจำเดือน จะต้องเตรียมตัวรับมือก่อนเสมอ เพราะการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้สำคัญเป็นอย่างมาก
วัยหมดประจําเดือนคืออะไร ?
ก่อนที่เราจะพูดถึงอาการของวัยหมดประจำเดือนนั้น จะต้องขออธิบายความหมายของช่วงเวลานี้กันก่อน กับ “วัยหมดประจำเดือน” โดยในช่วงเวลานี้จะหมายถึง คุณผู้หญิงที่ไม่มีประจำเดือนอีกต่อไปเมื่อรังไข่ได้หยุดการผลิตไข่นั่นเอง โดยในวัยนี้ จะเข้าสู่ช่วงสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อ ประจำเดือนไม่มาติดต่อกันเป็นระยะเวลา 1 ปี เต็ม โดยจะเกิดขึ้นในช่วง 45-55 ปี โดยปกติแล้วจะเกิดขึ้นในช่วงวัย 51 ปี นั่นเอง สำหรับภาวะนี้จะเกิดจาก รังไข่ผลิตฮอร์โมนน้อยลงจนหยุดทำหน้าที่ในการสร้างฮอร์โมน แต่ทว่าเรื่องสำคัญคือยังมีอีกหลายอาการที่เข้าสู่วัยหมดประจำเดือนก่อนอายุ 40 ปี จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น โรคประจำตัวเกี่ยวกับ ความผิดปกติของโครโมโซม การผ่าตัด การผ่าตัดรังไข่ หรือ การผ่าตัดเชิงกราน รวมทั้งการใช้ยาที่มีผลให้ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง หรือความเสี่ยงที่อาจเกิดโรคมะเร็งเต้านมในผู้หญิง รวมไปถึงการเสพสารเสพติด การสูบบุหรี่ เป็นต้น สำหรับใครที่กำลังคิดว่าตัวเองใกล้เข้าสู่วัยนี้ก็ลองไปสำรวจอาการเบื้องต้นของตัวเองกันก่อนได้เลย
วัยหมดประจําเดือนอาการ
สำหรับอาการของวัยหมดประจำเดือนนั้น จะประกอบไปด้วยหลายสิ่งที่แสดงออก ซึ่งถ้าหากว่าคุณเองเข้าใกล้ช่วงอายุ 40 ขึ้นไป หรือ 45 ขึ้นไปแล้วนั้น เกิดอาการดังต่อไปนี้แสดงว่าคุณเองเข้าใกล้ช่วงวัยนี้แล้วเป็นที่เรียบร้อย
- อาการประจำเดือนมาห่าง ไม่สม่ำเสมอทุกรอบเดือน มาไม่ปกติ
- อาการร้อนวูบวาบส่วนบนของร่างกาย มีอาการใจสั่น เหนื่อยง่าย เหงื่อออกตอนกลางคืน มีพบอาการหนาวสั่นโดยไร้สาเหตุร่วมด้วย
- อารมณ์ค่อนข้างเปลี่ยนเร็ว มีความหดหู่ วิตกกังวล ความอดทนน้อยลง ไม่มีสมาธิ มีอาการหลงลืมเข้ามาร่วมด้วย
- เกิดอาการนอนหลับยาก
- ร่างกายผิวหนังแห้ง บางลง มีอาการคัน ผิวแพ้ง่าย เกิดผื่นง่าย เส้นผมหยาบแห้งหลุดง่าย ไม่ดกดำ
- เจ็บที่ช่องคลอด เมื่อมีเพศสัมพันธ์ เนื่องจากมีภาวะช่องคลอดแห้ง รวมทั้งความต้องการทางเพศก็จะลดลงด้วย
- ปวดศีรษะ ปวดตามข้อ อ่อนเพลีย
- กลั้นปัสสาวะไม่ค่อยได้ มีอาการปัสสาวะบ่อย
ความเสี่ยงในระยะยาว
วัยหมดประจำเดือน จะมีความเสี่ยงในระยะยาวได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น โรคกระดูกพรุน โรคหัวใจและหลอดเลือด อีกทั้งการเปลี่ยนแปลงของประสาทส่วนกลาง รวมทั้งน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งหมดนี่ก็คือความเสี่ยงของวัยหมดประจำเดือนในระยะยาวที่ค่อนข้างจะอันตราย โดยจะอธิบายได้ดังนี้
1.ความเสี่ยงกับโรค กระดูกพรุน
เมื่อร่างกายเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน ร่างกายจะขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน ทำให้กระดูกเปราะบาง เนื่องจากสูญเสียความหนาแน่นของกระดูก ทำให้มีความเสี่ยงที่กระดูกจะหักได้ง่ายขึ้น จะเกิดขึ้นในส่วนของกระดูกสันหลัง ข้อมือ และ สะโพก โดยจะเสี่ยงให้เกิดโรคกระดูกพรุนในอนาคตด้วย
2.ความเสี่ยงกับโรคหัวใจและหลอดเลือด
เมื่อร่างกายที่เข้าสู่ภาวะนี้จะทำให้ระดับ ฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง แน่นอนเลยว่าความเสี่ยงที่มีต่อโณคหัวใจ กับ หลอดเลือดจะเพิ่มขึ้น เพราะว่าตัวฮอร์โมนเอสโตรเจนนั้นช่วยลดไขมันไม่ดีในเลือดได้ ด้วยเหตุนี้ผู้ที่เข้าสู่วัยหมดประจำเดือนจำเป็นมากที่จะต้องเข้มงวดเรื่องการรับประทานอาหารมากขึ้น
3.ความเสี่ยงที่จะทำให้ระบบประสาทเสื่อมลง
สำหรับในข้อนี้จะหมายถึงความเสี่ยงระยะยาวที่จะทำให้การตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นช้าลง เคลื่อนไหวช้าลง มีหลง มีลืม ซึ่งนี่เป็นเรื่องสำคัญต่อประสาทส่วนกลางนั่นเอง
4.น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น
เนื่องจากภาวะนี้ทำให้ ฮอร์โมนทีผลิตน้อยลง รวมทั้งอายุที่เพิ่มมากขึ้น ร่างกายก็ถดถอยลงไปตามช่วงวัย ทำให้ระบบเผาผลาญทำงานน้อยลง จึงส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น มีภาวะอ้วน และ โรคต่าง ๆ ที่รุมเร้าเข้ามา
สำหรับอาการทั้งหมดที่กล่าวมา ในบางรายอาจจะเกิดขึ้นบ้าง ไม่เกิดขึ้นบ้าง แต่เมื่อไหร่ที่เข้าสู้ช่วงวัยอายุ 45 ปี ขึ้นไป ขอให้เตรียมตัวเลยว่าอาการเหล่านี้จะเข้ามารบกวนจิตใจของคุณไม่มากกก็น้อย แต่สิ่งที่ทำได้ก็มีอีกหลายวิธีที่จะช่วยให้คุณกลายเป็นคนสุขภาพดี อารมณ์ดี ถึงแม้ว่าจะเข้าสู่ช่วงวัยทอง หรือ วัยหมดประจำเดือนแล้วก็ตาม กับ วิธีการดูแลตัวเองที่ดี เมื่ออยู่ในภาวะนี้ เพื่อให้คนรอบข้าง หรือ ตัวเองเกิดความสุขได้ในช่วงวัยนี้นั่นเอง
การดูแลตัวเอง เมื่ออยู่ในช่วงวัยหมดประจําเดือน
ความสุขมักจะอยู่รอบตัวเราเสมอ แต่สำหรับวัยหมดประจำเดือนแล้ว บางครั้งความหงุดหงิดก็มาจากการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ส่งผลให้จิตใจ สุขภาพ ย่ำแย่ลงไปในทุกวินาที แน่นอนเลยว่าในช่วงเวลาที่เข้าสู่ภาวะวัยหมดประจำเดือนคือ 45-55 ปี คุณเองก็จะต้องดูแลตัวเองให้ดี เตรียมตัวรับมือกับภาวะที่กำลังจะเกิดขึ้น แน่นอนเลยว่าคุณเองอาจจะไม่ได้รู้สึกอะไร แต่คนรอบข้างอย่างครอบครัว สามารถสัมผัสได้ว่าอาการของคุณนั้นค่อนข้างที่จะรับมือได้ยาก ดังนั้นคุณเองจะต้องเตรียมตัวดูแลตัวเองด้วย โดยวิธีการดูแลรักษา จะเริ่มตั้งแต่การปรับวิถีชีวิตเพื่อสุขภาพที่ดี การรักษาตามอาการ รวมไปทั้งการบำบัดด้วยฮอร์โมน ซึ่งพวกเราได้รวบรวมวิธีต่าง ๆ ที่จะทำให้คุณมีความสุขกับการใช้ชีวิตในภาวะนี้ ซึ่งมีดังต่อไปนี้
1.การรักษาตามอาการ
เริ่มต้นจากปัญหาในช่องคลอด ที่มักจะพบว่ามีอาการแห้ง ไม่มีน้ำหล่อลื่น จะต้องใช้เจลหล่อลื่นในการช่วยในกรณีการมีเพศสัมพันธ์ นอกจากนั้นแล้วอาการปวดตามข้อ ศีรษะ ก็จะต้องใช้ยาแก้ปวดเพื่อรักษาตามอาการไปก่อนในเบื้องต้น ในภาวะของผู้ที่มีอาการซึมเศร้า หรือ โรคอื่น ๆ แทรกซ้อน ก็จะต้องรักษาโดยใช้ยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
2.การรักษาโดยให้ฮอร์โมนทดแทน
การรักษาประเภทนี้จะช่วยให้ร่างกายอยู่ในภาวะสมดุล ซึ่งจะแบ่งออกเป็น การให้ยาที่ประกอบไปด้วย ฮอร์โมนเอสโตรเจน กับ โปรเจสเตอโรน ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบดังนี้
- การให้ฮอร์โมนเอสโตรเจน กับ โปรเจสเตอรโรน สำหรับผู้ที่ยังมีมดลูกอยู่
- การให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนเพียงอย่างเดียว สำหรับผู้ที่ไม่มีมดลูกแล้ว
สำหรับการบำบัดด้วยฮอร์โมนทดแทนนั้น จะมีอยู่หลายแบบ ทั้งรูปแบบของยาเม็ด ยาปรับฮอร์โมนวัยทอง หรือ วัยหมดประจำเดือน ซึ่งยาบำบัดในรูปแบบดังกล่าวจะช่วยลดอาการที่จะเกิดขึ้นในภาวะนี้ได้ดี แต่ทว่าข้อเสียของยาบำบัดก็อาจะเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาด้านสุขภาพอื่น ๆ ตามมาเช่น โรคลิ่มเลือดอุดตัน รวมทั้ง ระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง มีโรคมะเร็งเต้านม กับ โรคตับ ที่อาจเสี่ยงเป็นด้วย ดังนั้นแล้วก่อนที่จะใช้ยาบำบัดฮอร์โมนก็ควรที่จะศึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกครั้ง
การดูแลตัวเอง ของวัยหมดประจำเดือน
การดูแลตัวเอง สำหรับวัยหมดประจำเดือนถือได้ว่าเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะว่าผู้ที่เข้าสู่วัยนี้จะมีภาวการณ์เปลี่ยนแปลงทางด้านอารมณ์ที่สูง อีกทั้งสุขภาพที่แย่ มีจิตใจที่วิตกังวล เป็นต้น ดังนั้นวิธีเหล่านี้จะช่วยให้คุณห่างไกลจากอาการข้างเคียง พร้อมทั้งยังช่วยรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในภาวะนี้ได้ดีขึ้นอีกด้วย
1.การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายคือจุดเริ่มต้นที่จะทำให้สุขภาพดี เพราะจะทำให้ระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายพร้อมทำงานอยู่เสมอ ส่งผลให้การหลั่งฮอร์โมนเป็นปกติ จะทำให้อารมณ์ดี สุขภาพดี การไหลเวียนของเลือดเป็นปกติ อีกทั้งระบบขับถ่ายที่จะทำหน้าที่ได้อย่างดีด้วยเช่นกัน แน่นอนว่าจะทำให้คุณห่างไกลโรคร้าย และ ลดความเครียดในช่วงวัยหมดประจำเดือนนั่นเอง
2.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย จะทำให้ร่างกายรู้สึกมีความสุข แข็งแรง ส่งผลให้สุขภาพดีอยู่เสมอ แน่นอนเลยว่าเรื่องราวของอาหารในปัจจุบันมีมากมายหลายชนิด ทั้งมีประโยชน์ต่อร่างกาย รวมทั้ง ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายในระยะยาวด้วย จุดเริ่มต้นคือรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เสริมด้วยอาหารเสริมที่มีปรโยชน์อย่าง วิตามิน น้ำมันตับปลา โอเมก้า 3 หรือ คอลลาเจน จะช่วยซ่อมแซมให้ร่างกายของคุณได้ครบถ้วนนั่นเอง
3.ดื่มน้ำ อย่างน้อย วันละ 2 ลิตร
นอกจากการรับประทานอาหารแล้ว การดื่มน้ำเยอะ ๆ จะช่วยให้ร่างกายของเรานั้นทำงานได้อย่างสมดุลมากขึ้น อวัยวะภายในร่างกายส่วนใหญ่แล้ว ต้องการน้ำเป็นจำนวนมากในการหล่อเลี้ยง หรือ ลำเลียงสารอาหาร อีกทั้งยังช่วยในการดูดซึมวิตามินได้ดีขึ้นอีกด้วย แน่นอนเลยว่าการดื่มน้ำไม่ต่ำกว่าวันละ 2 ลิตร จะช่วยให้ระบบในร่างกายนั้นทำงานได้เป็นปกติมากขึ้น และ ยังเหมาะมากสำหรับผู้ที่อยู่ในวัยหมดประจำเดือน เพราะจะช่วยลดอาการของภาวะนี้ได้ด้วยเช่นกัน
4.งดบุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
สำหรับใครที่อยู่ในภาวะติดบุหรี่ หรือ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ขอแนะนำว่าให้ลด แล้วค่อย ๆ งดออกไปจากชีวิต เพราะว่าสิ่งที่กล่าวมาจะทำร้ายชีวิตเป็นอย่างมาก ซึ่งแน่นอนเลยว่าสารพิษที่อยู่ในบุหรี่ถึงแม้จะไม่ได้เป็นผู้สูบ ก็เป็นอันตรายได้ ส่วนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะส่งผลให้ระบบภายในร่างกายเช่น ตับ ทำงานหนักเกินไป เสี่ยงที่จะเกิดโรคแทรกซ้อนได้มากมายในช่วงภาวะวัยหมดประจำเดือน
5.ฝึกคลายอารมณ์
ความเครียดเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคุณหรือไม่ ถ้าตอบว่า “ใช่” คุณต้องมีการฝึกคลายอารมณ์จากความเครียดให้ได้เร็วที่สุด ไม่ว่าจะเป็นมองหาสิ่งคลายเครียด เช่น ดูหนัง ฟังเพลง หรือ รับชมละครที่ชอบ หรือ ท่องเที่ยว ที่สำคัญคุณเองจะต้องฝึกการหายใจ หรือ อยู่กับธรรมมะ เพื่อทำให้อารมณ์ที่กำลังร้อน หรือ หงุดหงิด เย็นลงด้วยตัวเองถ้ายังคลายอารมณ์ต่าง ๆ ด้วยตัวเองไม่ได้ ให้ปรึกษาแพทย์ทันที
6.ตรวจสุขภาพประจำปี
สุขภาพของคุณได้รับการตรวจประจำปีหรือไม่ ยิ่งอายุมากขึ้น จำเป็นมากที่จะต้องตรวจเป็นประจำทุกปี เพื่อตรวจหาโรคร้ายแรง เพื่อที่จะได้วางแผนการรักษาได้อย่างทันท่วงที หรือคุณอาจวางแผนทำประกันสุขภาพ Working women ไว้ก่อนถึงวัยหมดประจำเดือนก็ได้ สิ่งนี้เป็นการคัดกรองเบื้องต้น เพราะว่าความหนาแน่นนของกระดูกที่อาจจะเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน หรือ มะเร็งชนิดต่าง ๆ ที่ในวัยนี้เสี่ยงมากที่จะเป็น ไม่ว่าจะเป็น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม เป็นต้น
การดูแลตัวเองของวัยหมดประจำเดือน เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่ควรใส่ใจเป็นอย่างมาก เพราะการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของร่างกาย นับได้ว่าเป็นการก้าวผ่านเข้าสู่ช่วงสูงวัย แน่นอนเลยว่าเป็นช่วงปลายของชีวิตที่ทำให้หลายคนวิตกกังวลว่าสิ่งต่างๆ จะไม่เหมือนเดิม แต่ทว่าการดูแลตัวเองอยู่เสมอ จะทำให้คุณอ่อนกว่าวัยได้อย่างแน่นอน การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ไม่มีความเครียดอยู่ในใจ ตรวจสุขภาพประจำปี หรือ พบแพทย์อยู่เสมอ สิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณยังคงมีร่างกายที่แข็งแรงเกินวัยอยู่อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามการดูแลสุขภาพก็จะต้องได้รับสารอาหรสำคัญเข้าสู่ร่างกายด้วยเช่นกัน ซึ่งเราจะพูดถึงกันในหัวข้อต่อไป
แนะนำสารอาหารสำคัญสำหรับวัยหมดประจําเดือน
ต้องหันมาดูแลตัวเองกันบ้างแล้วสำหรับวัยหมดประจำเดือน ซึ่งถ้าพูดถึงอายุก็คงเริ่มที่ 40 ปี ขึ้นไป แน่นอนเลยว่าในช่วงเวลานี้คุณเองจะต้องหันมาใส่ใจเรื่องอาหารการกินมากกว่าวัยรุ่น หรือ วัยทำงาน อะไรที่หวานเกินไป หรือ รสชาติจัดเกินไปก็ต้องงด เพราะว่าในวัยหมดประจำเดือนสำคัญมากที่จะต้องรับประทานอาหารให้ถูกหลัก อีกทั้งได้รับสารอาหารที่สำคัญซึ่งจะช่วยให้อาการในภาวะนี้เช่น อาการหงุดหงิด เครียด หรือ ขาดวิตามิน ได้รับทุกอย่างแบบเพียงพอ ซึ่งจะมีสารอาหารแบบไหนที่ควรรับประทาน และ หลีกเลี่ยงบ้าง ติดตามกันได้เลย
1.สารอาหารเพิ่มฮอร์โมนแห่งความสุข
สำหรับสารอาหารที่เพิ่มความสุข อย่าง ข้าวกล้อง ธัญพืช ถั่วต่าง ๆ ปลาแซลมอน ไข่ กล้วย น้ำเต้าหู้ ดาร์กช็อกโกแลต อาหารเหล่านี้จะทีสารที่ช่วยกระตุ้น สารแห่งความสุขภายในร่างกายจะช่วยลดอาการร้อนวูบวาบได้ รวมทั้ง ช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดด้วย ควรรับประทานอย่างสม่ำเสมอ แต่สำหรับชนิดที่หวานในผู้ป่วยเบาหวานก็ควรหลีกเลี่ยงช็อกโกแลต
2.สารอาหารที่อุดมด้วยแคลเซียม
แคลเซียม สำคัญมากสำหรับผู้ที่อยู่ในภาวะวัยหมดประจำเดือน เพราะว่ามีความเสี่ยงที่กระดูกจะแตกหักง่าย ดังนั้นแล้วการรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมอย่าง นมไขมันต่ำ ผักใบเขียว ผลไม้ ซึ่งจะช่วยให้กักฮอร์โมนสำคัญอย่าง เอสโตรเจน ช่วยลดการสูญเสียแคลเซียมได้ อีกทั้งผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เช่น บลูเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ เป็นต้น จะอุดมไปด้วยแร่ธาตุชนิดที่ช่วยกักฮอร์โมนสำคัญนั่นเอง
3.สารอาหารอย่างวิตามิน เกลือแร่
ใครที่ชอบทานผัก ผลไม้ เป็นประจำอยู่แล้วก็หายห่วง เพราะว่าสิ่งเหล่านี้จะมีวิตามิน เกลือแร่ ที่มาจากธรรมชาติให้ประโยชน์แก่ร่างกาย แต่สำหรับใครที่เข้าสู่วัยนี้แล้วยังไม่ค่อยได้รับประทานสารอาหารเหล่านี้ต้องบอกเลยว่าคุณต้องหันมาทานบ้าง เพราะจะมีคุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการวัยทองได้นั่นเอง
4.สารอาหารสำคัญอย่าง คอลลาเจน
หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่ทราบว่าโปรตีนที่สำคัญต่อร่างกายอย่าง “คอลลาเจน” สำคัญมากสำหรับผู้ที่อยู่ในภาวะหมดประจำเดือน หรือ ผู้ชายวัยทอง เพราะในช่วงวัยนี้กระดูกจะเปราะง่าย รวมทั้งการผลิตฮอร์โมนลดลง ส่งผลให้คอลลาเจนที่ร่างกายผลิตเองได้ก็จะลดลงตามไปด้วย สารอาหารที่สำคัญอย่าง คอลลาเจน จึงเป็นตัวช่วยที่ทำให้กระดูกของคุณแข็งแรง ผิวพรรณถูกเสริมด้วยคอลลาเจน พร้อมทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ลดเลือนริ้วรอยตามอายุที่มากขึ้น จะทำให้คุณดูหน้าอ่อนกว่าวัย อีกทั้งคอลลาเจนเมื่อทำงานคู่กับวิตามินซี หรือ เอ และ อี จะช่วยให้ดูดซึมสารอาหารได้เป็นอย่างดีด้วยเช่นกัน
สำหรับ อาหารเสริมอย่างคอลลาเจน ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงวัยไหนเวลาไหน ก็สามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัย เป็นสารอาหารเสริมที่จะทำให้คุณมีสุขภาพผิวที่ดี ร่างกายแข็งแรง กระดูก เอ็น ข้อ ลดอาการปวดได้ด้วยเช่นกัน อาการของภาวะวัยหมดประจำเดือนก็จะทุเลาลงอย่างเห็นได้ชัด
อาหารที่ควรเลี่ยง วัยหมดประจำเดือน
วัยหมดประจำเดือน จะต้องให้ความสำคัญเกี่ยวกับอาหารที่เสี่ยงกระตุ้นให้มีอาการหงุดหงิด ร้อนวูบวาบอย่าง คาเฟอีน แอลกอฮอล์ อีกทั้งการดื่มชา กาแฟ เป็นประจำก็ไม่ใช่ผลดีกับร่างกายด้วย เพราะว่าจะดูดซึมแคลเซียมได้น้อยลง เสี่ยงมากที่จะเป็นโรคกระดูกพรุน ดังนั้นอาหารที่เลี่ยงจะได้แก่
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ คาเฟอีน
- อาหารที่มีไขมันสูง
- อาหารรสจัด เผ็ดร้อน
- ขนมขบเคี้ยว ขนมหวาน
- อาหารแปรรูป
จะเห็นได้เลยว่า อาหาร หรือ พฤติกรรมในการรับประทานอาหารเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้น ๆ ของการรักษาสุขภาพ เพราะในผู้ที่อยู่ในช่วงวัยหมดประจำเดือน จะต้องเคร่งในเรื่องการรับประทานอาหารเป็นส่วนใหญ่ เพราะนี่คือจุดเริ่มต้นที่จะส่งผลต่อสุขภาพร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของความแข็งแรง อารมณ์ ความเครียด แน่นอนเลยว่าการได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ และ จำเป็นต่อภาวะวัยหมดประจำเดือน จะทำให้อาการของภาวะนี้ลดลงได้
สำหรับในช่วงวัย 40 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่แล้วจะถูกทักถามด้วยปัญหารุมเร้าทางด้านสุขภาพ บางรายอาจจะเริ่มต้นปัญหาเหล่านี้ได้ในวัย 35 ปีขึ้นไปด้วย ซึ่งเรื่องเหล่านี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของของแต่ละคนว่ามีความแข็งแรง หรือ ได้รับผลกระทบอื่น ๆ มากน้อยแค่ไหน บางรายมีโรคประจำตัวก็เสี่ยงมากเมื่ออายุมากขึ้น เพราะว่าอวัยวะในร่างกายก็เริ่มที่จะทำงานได้อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพมากนัก ดังนั้นในปัจจุบันทำให้คนส่วนใหญ่หันมาใส่ใจรักสุขภาพกันมากขึ้นนั่นเอง แต่สำหรับใครที่ใกล้เข้าสู่ช่วงวัยทอง หรือ ช่วงวัยหมดประจำเดือน เมื่อได้อ่านข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการทำความรู้จัก เข้าใจ เกี่ยวกับภาวะนี้ เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงจะเริ่มเตรียมตัวกันแล้ว แน่นอนเลยว่าครอบครัวของคุณมีใครที่กำลังจะเข้าสู่ภาวะนี้ก็อย่าลืมที่จะเตรียมแผนการรักษาดูแล จะได้ไม่เครียดทั้งคนดูแล รวมทั้งตัวของผู้ที่เข้าสู่วัยนี้ด้วย และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมดของภาวะวัยหมดประจำเดือนของคุณผู้หญิง ที่ต้องบอกเลยว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากเลยทีเดียว
อ้างอิง
- ผู้หญิงวัยทอง หรือ วัยหมดประจำเดือน (Menopause). https://www.phukethospital.com/th/news-events/menopause/
- การให้ฮอร์โมนทดแทน. https://www.bumrungrad.com/th/treatments/hormone-treatment
- Do and Don’t สำหรับคนวัยทอง. https://www.samitivejhospitals.com/th/article/detail/menopause