โรคมะเร็งเต้านม ภัยร้ายของสาวๆ ที่ไม่ควรมองข้าม

โรคมะเร็งเต้านม
โรคมะเร็งเต้านม ถือว่าเป็นภัยเงียบที่ผู้หญิงอย่างเรานั้นไม่ควรมองข้าม เนื่องจากโรคนี้ไม่มีอาการใดใดแสดงออกมาชัดเจน

โรคมะเร็งเต้านม ภัยร้ายของสาวๆ ที่ไม่ควรมองข้าม

โรคมะเร็งเต้านม ถือว่าเป็นภัยเงียบที่ผู้หญิงอย่างเรานั้นไม่ควรมองข้าม เนื่องจากโรคนี้ไม่มีอาการใดใดแสดงออกมาชัดเจน กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็เป็นระยะที่ทำให้จิตตกและเป็นกังวล ในแต่ละปีมีผู้ป่วยมะเร็งเต้านมเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่มักพบในผู้หญิงที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป แต่ใช่ว่าเพศชายจะไม่มีนะคะ มีแต่ว่าในเปอร์เซนต์ที่ต่ำมากมะเร็งในผู้หญิงมะเร็งเต้านมถือเป็นโรคเสี่ยงเป็นอันดับต้น โดยในแต่ละปีจะพบผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมเพิ่มขึ้นถึง 50,000 คนต่อปีและมีแนวโน้มเพิ่มมากเรื่อย ๆ


อาการของมะเร็งเต้านม

โรคมะเร็งเต้านม

เบื้องต้นเราไม่สามารถรู้ได้ทันท่วงทีนอกจากจะตรวจจากเครื่อง Mammogram ที่สามารถตรวจพบโรคได้ตั้งแต่ระยะแรกก่อนแสดงอาการ หากไม่ได้ไปตรวจ และไม่แน่ใจให้ลองสังเกตอาการของตนเองดังต่อไปนี้

  • คลำแล้วพบก้อนเนื้อ โดยเฉพาะบริเวณที่เสี่ยงกับการเป็นมะเร็งเต้านมนั้นคือ บริเวณใต้ราวนมและบริเวณรักแร้ ซึ่งก้อนเนื้อนี้อาจมีอาการเจ็บร่วมด้วย หรือบางครั้งก็ไม่เจ็บเลย วิธีการคลำหาก้อนเนื้อก็คือ ใช้มือตรงข้ามคลำหน้าอกในท่าคลำขึ้นลง จากนั้นคลำวนเป็นวงกลม และนอนหงายคลำหาท่าเดียวกันว่ามีก้อนอะไรที่ผิดปกติหรือไม่
  • มีของเหลวออกมาจากโดยหัวนมไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งอาจจะเป็นสีเหลืองขุ่น สีใส หรือเลือดออกมาจากบริเวณหัวนมข้างใดข้างหนึ่งควร อาการนี้าจะจะเกิดจากระดับฮอร์โมนสูงกว่าปกติ แต่อย่างไรก็ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็วที่สุด
  • มีผื่นคันบริเวณนมและหัวนม อาจะเริ่มจากอาการแสบคัน มีผดผื่นขึ้นมา แต่ทำการรักษาผิวแล้วก็ยังไม่หายดี รักษากี่ทีก็ไม่หายจนแผลตกเป็นสะเก็ดควรให้แพทย์ตรวจหาเซลล์มะเร็ง เพราะการที่มีอาการเช่นนี้อาจเกิดจากเซลล์มะเร็งลามขึ้นมาที่ผิวหนังแล้ว
  • ผิวหนังบริเวณเต้านมเปลี่ยนไปหรือกดแล้วบุ๋ม หากผิวบริเวณเต้านมเปลี่ยนเป็นเหมือนส้มเปลือกหนา ลานหัวนมเปลี่ยนสีทั้งที่ไม่ได้มีการตั้งครรภ์ หรืออีกอาการคือกดลงไปบนเนื้อแล้วมีรอยบุ๋ม เนื่องจากอาจเป็นอากาเซลล์มะเร็งที่ได้ลุกลามมายังชั้นเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังไปแล้ว
  • รูปร่างเปลี่ยนไป ตามธรรมชาติขนาดของเต้านมในผู้หญิงนั้นไม่เท่ากันยู่แล้ว แต่ถ้าจู่ๆ ขนาดของเต้านมเปลี่ยนไป มีการบวมขึ่น ให้ถือว่าเป็นสัญญาณอันตราย

อาการทั้งหมดดังกล่าวไม่ควรนิ่งนอนใจ ควรบันทึกเอาไว้ว่าเกิดอาการอะไรขึ้นบ้างกับตนเองและสามารถเข้าถามแอพปรึกษาหมอหรือนัดเพทย์เพื่อวินิจฉัยต่อไป


สาเหตุโรคมะเร็งเต้านม

โรคมะเร็งเต้านม

มะเร็งเต้านมเกิดจากการแบ่งตัวของเซลล์ที่ผิดปกติบริเวณของต่อมน้ำนม หรือท่อน้ำนมที่มีการเจริญเติบโตและควบคุมไม่ได้ จนอาจมีการกระจายไปตามต่อมน้ำเหลืองที่อวัยวะข้างเคียง และสาเหตุที่แท้จริงของมะเร็งเต้านมนั้นยังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจน แต่แยกออกมาได้จากสาเหตุจากปัจจัยเสี่ยงที่ควบคุมได้และปัจจัยเสี่ยงที่เหนือการควบคุม

  • ปัจจัยเสี่ยงที่ควบคุมได้ นั่นก็คือพฤติกรรมการบริโภคอาหารและการใช้ชีวิตประจำวัน นักวิจัยพบว่าผู้หญิงที่ไม่ค่อยออกกำลังกาย หรือมีการขยับร่างกายน้อย นั้นมีเปอร์เซนต์เกิดมะเร็งสูงกว่าผู้หญิงที่มีกิจกรรมขยับร่ากายตลอดเวลา การบริโภคอาหารก็สำคัญ เช่น การรับประทานของทอดมากเกินไปหรือการที่รับอาหารที่มีสารเคมีตกค้างทำให้สะสมในร่างกายจนเป็นมะเร็ง การรับประทานยาคุมเป็นประจำ และการทำงานที่เกี่ยวข้องการรังสีแกมมา รังสีอื่น ๆ ที่รุนแรงและกระตุ้นให้เซลล์ทำงานผิดปกติ
  • ปัจจัยเสี่ยงที่เหนือการควบคุม นั่นคือ อายุของผู้หญิงที่มากขึ้นและการถ่ายทอดสู่กรรมพันธุ์ กลายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ฉะนั้นเมื่อผู้หญิงอายุมากกว่า 35 ปี ขึ้นไปควรได้รับการตรวจเป็นประจำทุกปี หรือสามาตรตรวจเองได้ที่บ้านโดยการคลำบริเวณเต้านมและรักแร้ของตนเอง หรืออายุน้อยกว่านั้นก็เป็นการดูแลตัวเองอย่างเนิ่น ๆ

การรักษาโรค

โรคมะเร็งเต้านม

วิธีการรักษาโรคมะเร็งเต้านมนั้นแบ่งออกได้หลายแบบ แต่ก็แยกออกไปในระยะความรุนแรงของมะเร็ง ซึ่งการรักษานั้นจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์และปัจจัยอาการต่าง ๆ ของผู้ป่วย ถ้าแบ่งออกย่อยหัวข้อใหญ่ก็จะเป็นการรักษามะเร็งระยะที่ยังไม่มีการแพร่กระจายของโรคและการรักษาระยะลุกลาม

  1. รักษาแบบเฉพาะที่ (Locoregional therapy)สำหรับผู้ป่วยในระยะที่ 1 และ 2 แบ่งออกเป็น 2 วิธี
  • ผ่าตัดมะเร็งเต้านมในลุกลามระยะแรก ในส่วนเต้านมและต่อมน้ำเหลืองใต้แร้ เพื่อป้องกันการแพร่กระจาย
  • ฉายแสงในลุกลามระยะแรก จากการศึกษาพบว่า มีการลดลงอย่างมีนัยสำคัญของอัตราการกลับเป็นโรคซ้ำเฉพาะที่ในกลุ่มที่ได้รับการฉายแสง
  1. รักษาแบบ Systemic
  • การให้ยาเคมีเสริม (adjuvant taxane) ใช้กับผู้ป่วยระยะลุกลามที่ 1-3 มีการกระจายของมะเร็งมาที่ต่อมน้ำเหลือง อาจจะได้เป็นแบบรับประทานหรือแบบฉีดก้ได้ ซึ่งตัวเคมีจะกระจายเข้าสู่เส้นเลือดเพื่อไปยังยั้งการแพร่กระจาย ทำให้ก้อนมะเร็งเล็กลง มีผลข้างเคยงเช่น ผมร่วง เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย เป็นต้น
  • การรักษาแบบ adjuvant systemic ในผู้ป่วยที่ลุกลามมาที่ต่อมน้ำเหลือง ผู้ป่วยในวัยก่อนหมดประจำเดือนมีขนาดก้อนเล็กมีโอกาสเป็นมะเร็งน้อยมาก และยิ่งวัยหมดประจำเดือนและก้อนใหญ่ก็ยิ่งมีโอกาสกลับไปเป็นอีกได้สูง
  • การให้ยาต้านฮอร์โมน (aromatase inhibitor) สำหรับผู้ป่วยตัวรับฮอร์โมนเป็นบวกและในวัยหมดประจำเดือน โดยการใช้ยาหยุดยั้งการทำงานของฮอร์โมนหรือลดการสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจน ทำให้เซลล์หยุดการเจริญเติบโตส่งผลให้ขนาดก้อนมะเร็งเล็กลง
  • การให้ยา taxanes ก่อนการผ่าตัด สำหรับมะเร็งเต้านมที่ยังไม่มีการแพร่กระจาย
  1. รักษามะเร็งเต้านมด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด (Cell Based Immunotherapy)

คิดค้นโดยศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถเพื่อมะเร็งเต้านม โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เป็นการใช้เซลล์พื้นฐานที่พบในร่างกาย ไปกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายเพื่อไปกำจัดเซลล์มะเร็ง ใช้รักษาในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมชนิดที่รักษายากและลุกลามไปทั่วร่างกาย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของโลกและเป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์การรักษามะเร็งเลยทีเดียว


หากผู้ที่กังวลหรือกำลังเป็นโรคมะเร็วเต้านมอยู่ขอให้คุณมั่นใจได้ว่าโรคมะเร็งนี้รักษาให้หายขาดได้ เพียงต้องอยู่ในวินิฉัยขอแพทย์และได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง แต่ที่สำคัญก็ควรทำประกันสุขภาพของ Working womenไว้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นวิธีรักษาใดๆ คุณหมอนั้นมีหน้าที่รักษาและเราเองก็มีหน้าที่ใช้ชีวิตของตัวเองเป็นปกติ ให้กำลังใจตนเองและทำจิตใจให้แจ่มใสเหมือนตอนก่อนที่เราจะค้นพบโรคนี้เจอ กำลังใจและการดูแลรักษาสุขภาพนั้นเป็นคีย์สำคัญให้ห่างจากมะเร็ง เป็นกำลังใจทุกคนค่ะ


ที่มา

http://www.chulacancer.net/education-list-page.php?id=450

https://www.chulacancer.net/patient-knowledge-inner.php?id=637

https://www.petcharavejhospital.com/th/Article/article_detail/Breast-Cancer-symptom-and-phase

https://www.siphhospital.com/th/news/article/share/breast-cancer-treatment

Share:

Facebook
Twitter
Pinterest
LinkedIn

Leave a Reply

OUR RECENT POSTS

Social Media

Categories

Related Posts